อยากเช่ารถต้องทำอย่างไรบ้าง
ปัจจุบันการเช่ารถยนต์ขับเองได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้การเดินทางของเราสะดวกและง่ายขึ้น หลายคนอาจจะยังไม่เคยเช่ารถยนต์มาก่อน ดังนั้นก่อนที่เราจะเช่ารถยนต์สักคัน เพื่อใช้ในการเดินทาง จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเข้าใจ เงื่อนไขการเช่ารถยนต์ ซึ่ง Exclusive car rental เราได้รวบรวมมาให้แล้ว เราขอเรียกว่า คู่มือการเช่ารถยนต์ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง เมื่อเราต้องการเช่ารถยนต์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเลือกเช่ารถยนต์กับที่ไหนดี เพราะปัจจุบันมีผู้ให้บริการเช่ารถยนต์เยอะมาก ทั้งรายย่อย รายบุคคล ไปจนถึงบริษัทรถเช่าขนาดใหญ่ ซึ่งอย่างแรกเลยในการเช่ารถยนต์ก็คือ การเลือกบริษัทรถเช่า ซึ่งอาจเปรียบเหมือนกับการเลือกเพื่อน ถ้าได้เพื่อนดี เราก็สบาย แต่ถ้าได้เพื่อนไม่ดี เราก็จะพลอยแย่ไปด้วย แต่ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เนื่องจากปัจจุบันเราอยู่ในยุคของข้อมูลข่าวสาร การหาข้อมูลของผู้ให้บริการรถเช่าก็ไม่ได้ยากมาก อาจไปอ่านรีวิวในพันทิป ดูความคิดเห็นของคนอื่นๆที่เคยเช่ารถยนต์มาแล้ว ก็พอช่วยเราได้บ้าง รวมทั้งเข้าไปอ่านในเว็บไซต์ ใน Facebook page ของผู้ให้บริการ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
ในมุมมองของผู้เขียนและเคยมีประสบการณ์ในการเช่ารถยนต์มาก่อน มีแนวทางในการเลือกบริษัทรถเช่า ดังนี้
1. ความน่าเชื่อถือ ผู้ให้บริการที่จดทะเบียนบริษัท และจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว จะมีความน่าเชื่อถือมากว่า
2. จำนวนปี ที่เปิดให้บริการ ยิ่งเปิดมานานก็ยิ่งดี แปลว่าบริษัทนี้ดีและเก่งจึงอยู่รอดมาได้
3. จำนวนรถยนต์ ยิ่งเยอะยิ่งดี เราจะได้เลือกเช่ารถได้หลายรุ่น หลายแบบ เมื่อรถมีปัญหา สามารถเปลี่ยนคันได้
4. จำนวนพนักงาน ควรมีเพียงพอให้บริการ ไม่ต้องรอนาน และสามารถติดต่อได้ 24 ชั่วโมง
5. ชื่อเสียงของแบรนด์ ดูว่าเราชอบไหม บุคลิกและสีของแบรนด์ ถูกใจเราไหม
เอกสารเช่ารถยนต์มีอะไรบ้าง
เมื่อเราเลือกบริษัทรถเช่าได้แล้ว ต่อไปเราจะต้องจัดเตรียมเอกสารที่ใช้ในการเช่ารถยนต์ หลายคนสงสัยว่า ทำไม การเช่ารถยนต์ บริษัทรถเช่าจึงต้องขอเอกสาร โน่น นี่ นั่น ด้วย เมื่อไปถึงบริษัท ก็แค่จ่ายเงิน แล้วขับรถยนต์ออกมาเลยไม่ได้เหรอ ใจเย็นๆ นะครับ เนื่องจากรถยนต์แต่ละคัน มีราคาค่อนข้างสูง และปัจจุบันมีโจร มีมิจฉาชีพ ที่มาหลอกเช่ารถยนต์ไปขาย ไปจำนำ หรือลักลอบออกนอกประเทศไปเลยก็มี ดังนั้น บริษัทรถเช่าเขาจึงต้องตั้งหลักเกณฑ์ขึ้นมา เพื่อใช้ในการคัดกรองลูกค้าที่ต้องการเช่ารถยนต์จริงๆ ออกจากโจร ที่จะมาลักขโมยรถยนต์ โดยทั่วไปแล้วบริษัทรถเช่า จะขอเอกสารประกอบการเช่ารถจากเรา ดังนี้
1. บัตรประชาชน
2. ใบขับขี่รถยนต์
3. บัตรเครดิต หรือ สลิปเงินเดือน
เอกสารจะถูกถ่ายสำเนา ให้เราลงชื่อ และเก็บไว้ที่บริษัทรถเช่า ส่วนเอกสารตัวจริงเก็บไว้ที่เรา ส่วนบัตรเครดิตจะใช้ในการรูดชำระค่าเช่ารถยนต์ และมัดจำ บางคนที่ไม่มีบัตรเครดิต ก็ใช้สลิปเงินเดือน เดือนล่าสุดแทน และชำระเป็นเงินสด หรือ โอนเงิน เป็นไงบ้างครับ เอกสารการเช่ารถยนต์ ก็ไม่ได้ยาก ส่วนใหญ่ 3 รายการนี้เราก็พกติดตัว กันอยู่แล้ว ใช่ไหมครับ
ราคาเช่ารถยนต์ เท่าไหร่
เช่ารถราคาเท่าไหร่ เป็นคำถามแรกๆ ที่ได้ยิน เมื่อจะเช่ารถยนต์ ราคาเช่ารถยนต์มักจะแตกต่างกันไป ตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน และหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถยนต์ ดังนั้น เราก็เลือกรุ่นรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน และอยู่ในงบประมาณที่วางไว้ เพื่อให้สามารถมีเงินเหลือ ไปจ่ายค่าที่พักและอาหารการกิน สำหรับราคาเช่ารถยนต์ ของ Exclusive car rental สามารถคลิกที่
ราคาเช่ารถ
เงื่อนไขการเช่ารถยนต์ที่สำคัญ
สิ่งที่สำคัญที่สุดใน คู่มือการเช่ารถยนต์ ก็คือ เราจะต้องทราบและอ่าน เงื่อนไขการเช่ารถยนต์ หรือ สัญญาเช่ารถยนต์ อย่างละเอียด และสอบถามเพิ่ม เมื่อไม่เข้าใจ ซึ่งเงื่อนไขการเช่ารถยนต์ที่สำคัญ มีดังนี้
1. การชำระเงิน จะชำระยอดทั้งหมดในวันที่รับรถยนต์ โดยค่าเช่ารถหรู จะจ่ายผ่านบัตรเครดิต และเงินมัดจำ 20,000 บาท ชำระด้วยการโอนเงิน
2. การคืนเงินมัดจำ เงินมัดจำ 20,000 บาท จะคืนให้ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากคืนรถยนต์ หากไม่ทำผิดเงื่อนไขของบริษัท ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน
3. การจัดส่ง การจัดส่งรถยนต์
-เช่ารถหรู 2 วัน ขึ้นไป บริการ รับและส่ง รถยนต์ให้ ฟรี ในจังหวัดกรุงเทพ
-สำหรับปริมณฑล คิดค่าส่ง เที่ยวละ 856 บาท(ไปรับและส่ง 1,712 บาท)
-เช่า 1 วัน รับรถเองที่สาขาลาดพร้าว แผนที่
คลิก
เมื่อรถชนจะทำอย่างไร
มีคำกล่าวว่า หมองู ตายเพราะงู ฉันใด เมื่อเราขับรถยนต์ ก็ย่อมมีโอกาสที่รถยนต์จะถูกชน มีอุบัติเหตุ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้น ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยทั่วไปบริษัทรถเช่าจะทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับและภาคสมัครใจไว้อยู่แล้ว แต่จะมีเงื่อนไข ที่จะให้ผู้เช่าร่วมรับผิดชอบด้วยบางส่วน เราเรียกว่า ค่าเสียหายส่วนแรก เพื่อเป็นแรงจูงใจ ให้ผู้เช่าขับรถยนต์ด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช่ว่า เอะอะก็ชน เพราะบริษัทรถเช่าจะขาดรายได้ จาการที่จะต้องนำรถยนต์ที่ชน ไปเข้าซ่อม ดังนั้น เราในฐานะผู้เช่าก็ควรขับรถยนต์อย่างระมัดระวัง ไม่ให้รถยนต์มีรอย โดยทั่วไป บริษัทรถเช่ามักมีทางเลือกให้เรา 2 ทางคือ
1. ซื้อประกันภัยค่าเสียหายส่วนแรกเพิ่ม ราคา 856 บาท/วัน ถ้าเราซื้อเพิ่มเมื่อรถยนต์ชน /มีอุบัติเหตุ เราก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้า 70% จะซื้อเพิ่ม เพื่อความสบายใจ
2. ไม่ต้องซื้อประกันภัยแบบพิเศษเพิ่ม กรณีนี้ผู้เช่าจะต้องพยายามขับรถยนต์อย่างระมัดระวัง ไม่ให้มีรอยเพิ่ม แต่ถ้ามีอุบัติเหตุ ผู้เช่าจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 10,700 บาท
เมื่อรถยนต์มีอุบัติเหตุ ก็ให้เราโทรศัพท์ แจ้งบริษัทประกันภัย โดยดูจาก กรมธรรมม์ประกันภัย ที่อยู่ในช่องเก็บของฝั่งผู้โดยสาร เมื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยมาถึง ก็ให้เราแสดงใบขับขี่และเล่าเหตุการรืให้เจ้าหน้าที่ฟัง เมื่อเครมเสร็จให้เราเก็บใบเครม ไปให้บริษัทรถเช่า เพื่อใช้เป็นเอกสารในการเครมที่อู่
เงินมัดจำจะได้คืนไหม
หลายคนสงสัยว่าเงินมัดจำ 20,000 บาท บริษัทรถเช่าเอาไปทำอะไร แล้วเราจะได้คืนไหม มัดจำมีไว้เป็นหลักประกันว่า ผู้เช่าจะเอารถยนต์มาคืน ตามวันและเวลา ที่นัดหมาย กลับมาพร้อมสภาพเดิม แต่ถ้าหากผู้เช่าไม่ได้นำรถกลับมาคืนในวัน เวลาที่นัดหมาย หรือ รถถูกชน มีรอย ก็จะถูกปรับและหักจากเงินมัดจำ ดังนั้น เราก็ควรคืนรถยนต์ให้ตรงเวลา ถ้ากังวลเรื่องรอย เรื่องอุบัติเหตุ ผมก็แนะนำให้เลือกซื้อประกันภัยค่าเสียหายส่วนแรก เพิ่มไปเลย เพื่อความสบายใจ เราจะได้ขับรถยนต์เที่ยวโดยไร้ความกังวล และจะได้มัดจำคืนครบตามจำนวน