บริการเช่ารถไฟฟ้าขับทดแทนระหว่างซ่อม ราคาเท่าไหร่ ?
เมื่อรถของคุณถูกชนหรือเสียและจำเป็นต้องจอดซ่อมเป็นเวลาหลายวันหรือบางทีอาจเป็นเดือนถือเป็นเรื่องน่าปวดหัวอย่างมากในการหารถที่จะใช้งานระหว่างที่รถของคุณจอดซ่อมเพราะคิดไปคิดมาแล้วการเดินทางด้วยแท็กซี่หรือรถประจำทางอาจะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายหรือความเหนื่อยล้าที่คุณต้องเจอสักเท่าไหร่
บริษัท Exclusive Car Rental ของเรามีบริการเช่ารถไฟฟ้าขับทดแทนระหว่างซ่อมให้คุณได้เช่ารถไฟฟ้าของเราในราคาที่จับต้องได้แถมยังได้รถไฟฟ้าที่ดีและมีคุณภาพไปใช้งานอีกด้วย
ข้อดีและข้อเสียของการเช่ารถไฟฟ้าขับ มีอะไรบ้าง ?
ข้อดีของการเช่ารถไฟฟ้าขับ
1. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและตัวคุณ : รถไฟฟ้าไม่มีการปล่อยไอเสียที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ ทำให้ช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติได้แถมผู้ใช้งานยังลดอันตรายจากการสูบดมมลพิษได้อีกด้วย
2. ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย : รถไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมัน ซึ่งไฟฟ้านั้นสามารถผลิตได้หลากลายรูปแบบ โดยจะส่งผลดีอย่างยิ่งในการช่วยลดการใช้น้ำมัน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นไม่ต้องพูดถึงค่าชาร์จไฟฟ้ายังถูกกว่าค่าน้ำมันอยู่มาก
3. เสียงรบกวนต่ำ : รถไฟฟ้ามีเสียงการทำงานของเครื่องที่เงียบกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ซึงจะช่วยลดมลพิษทางเสียงให้กับคนในสังคมได้โดยเฉพาะการใช้งานในองค์กรหรือชุมชนที่มีคนอยู่เยอะ
4. อัตราเร่งและความเร็วที่ดีกว่า : ต้องยอมรับว่ารถEVนั้นขับสนุกและเร่งได้ทันใจมากกว่ารถน้ำมันเนื่องจากรถไฟฟ้านั้นไม่ต้องรอรอบของเครื่องยนต์ ทำให้คุณขับได้ดั่งใจมากกว่า
5. ความทันสมัย : ต้องยอมรับว่ารถEVที่เข่ามาขายในบ้านเรานั้นมีความทันสมัยมากๆ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ให้มา ความหรูหราสวยงามของวัสดุอุปกรณ์ภายในรถ ที่สำคัญราคาที่เทียบเท่าหรือถูกว่ารถน้ำมันที่มีเทคโนโลยีน้อยกว่า
ข้อเสียของการเช่ารถไฟฟ้าขับ
1. ระยะทางในการวิ่ง : แม้ปัจจุบันผู้ผลิตรถEVหลายเจ้าจะพัฒนาตัวรถของพวกเขาให้วิ่งได้ไกลมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีข้อเสียเนื่องจากรถไฟฟ้ามีข้อจำกัดในระยะทางการวิ่งเมื่อชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง
2. สถานีชาร์จไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอ : ตามที่บอกไปในข้อที่แล้วว่ารถไฟฟ้ามีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง เมื่อชาร์จเต็ม 1 ครั้ง และไฟฟ้าใกล้หมดการหาสถานีจะถือเป็นเรื่องสำคัญขึ้นมาทันที แม้ในไทยจะมีสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในทุกๆวัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอแต่ปริมาณของรถไฟฟ้าและในบางจังหวัดสถานีชาร์จก็ยังเข้าไปไม่ถึง
3. อายุการใช้งานแบตเตอรี่และราคาที่แพง : ถึงแม้ว่าทางศูนย์จะมีการดูแลเรื่องแบตเตอรี่รถไฟฟ้าเป็นอย่างดีแต่สักวันนึงแบตเตอรี่ก็ต้องเสื่อมลงไม่ว่าจะเกิดจากการเสื่อมตามอายุหรือเสื่อมจะการใช้งาน ที่สำคัญราคาแบตเตอรี่ของรถEVยังมีราคาที่สูงอยู่มากในปัจจุบัน
4. ข้อจำกัดในการใช้งาน : ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถไฟฟ้าก็มีข้อจำกัดในการใช้งานบางอย่างที่สูงรถน้ำมันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป้นเรื่องของการขับลุยในพื้นที่น้ำท่วม การขับในพื้นที่ขรุขระ การเกิดอุบัติเหตุจากการชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะทำให้แบตเตอรี่ใต้ท้องรถเกิดความเสียหายจนไม่สามรถใช้งานต่อได้
5. ความทันสมัยที่มากเกินไป : เรื่องเทคโนโลยีต่างๆที่ใส่มาให้ในตัวรถนั้นถือเป็นเรื่องดีอย่างมากกับผู้บริโภค แต่ก็ยังมีเส้นบางๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านั้น ทั้งเรื่องความเสถียรและความปลดภัยของตัวมันเอง นอกจากนั้นเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาอาจทำให้ผู้ใหญ่ที่ใช้งานต้องคลำหาปุ่มต่างๆในรถซึ่งอาจทำให้เกิดความยุ่งยากหรืออุบัติเหตุบนท้องถนนได้
รถไฟฟ้าให้เช่าขับทดแทนระหว่างซ่อม ราคาเท่าไหร่และสเปคเป็นอย่างไร ?
ราคาเช่ารถไฟฟ้า
รูปแบบการเช่า |
ราคาเช่ารายวัน |
ราคาเช่ารายเดือน |
เงินมัดจำ |
ขับเอง |
2,461 บาท/วัน |
36,380 บาท/เดือน |
10,000 บาท |
รูปแบบการเช่า |
ราคาเช่ารายวัน |
ราคาเช่ารายเดือน |
เงินมัดจำ |
ขับเอง |
5,350 บาท/วัน |
85,600 บาท/เดือน |
20,000 บาท |
สเปคของรถไฟฟ้าให้เช่า
รุ่นรถ : BYD ATTO 3 Extended Range 2023
คุณสมบัติ |
ข้อมูล |
มอเตอร์ |
มอเตอร์ไฟฟ้า 150 กิโลวัตต์ / EV วิ่งได้ระยะทาง 480 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง |
ไฟหน้า |
ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมไปเลี้ยวแบบ Sequential |
เบาะ |
หนังสังเคราะห์ / เบาะด้านคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เบาะนั่งข้างคนขับปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง |
หลังคา |
ซันรูฟ |
กระจกไฟฟ้า |
มี พร้อมระบบ Jam Protection 4 บาน |
จอแสดงผล |
จอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว |
ระบบเชื่อมต่อ |
Bluetooth / Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย / USB |
ฝาท้าย |
เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า |
ระบบความปลอดภัย |
1. ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง 2. ระบบเตือนแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System 3. เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto hold 4. ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP 5. ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS 6. ระบบเบรกอัตโนมัติ AEB 7. ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW 8. ระบบเตือนเปลี่ยนเลน LDW 9. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร LKA 10 .ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control with Stop & Go 11. ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HDC 12. กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา 13. กล้องบันทึกเหตุการณ์ด้านหน้า 14. เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง |
จำนวนที่นั่ง |
5 ที่นั่ง |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อน 2 ล้อ (หน้า) |
รุ่นรถ : MG Maxus 9 V Super Luxury 2024
คุณสมบัติ |
ข้อมูล |
มอเตอร์ |
มอเตอร์ไฟฟ้า 180 kW วิ่งได้ 540 กม. ต่อ 1 การชาร์จ |
ไฟหน้า |
ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมไปเลี้ยวแบบ Sequential |
หลังคา |
หลังคาซันรูฟด้านหน้า และพาโนรามิกด้านหลัง |
เบาะ |
หนังแท้ และวัสดุสังเคราะห์ - เบาะคนขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกการนวด เบาะอุ่น และระบายความร้อน - เบาะผู้โดยสารด้านหน้า ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกการนวด เบาะอุ่น และระบายความร้อน - เบาะนั่งแถว 2 ปรับไฟฟ้าแบบ Captain Seat แบบ VIP พร้อมระบบนวด อุ่น และระบายความร้อน และโต๊ะพับ |
จอแสดงผล |
หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว จำนวนลำโพง 12 ตำแหน่ง |
ระบบเชื่อมต่อ |
1. ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ / ช่องเชื่อมต่อ USB 2. ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android |
ฝาท้าย |
เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า |
ระบบความปลอดภัย |
1. ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย 2. ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) 3. ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD 4. ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) 5. ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) 6. ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) 7. ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) 8. ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam Control) 9. ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) 10. ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) 11. ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System) 12. ระบบช่วยเตือนการชน FCW และระบบช่วยเบรก AEB 13. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) 14. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) 15. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) 16. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist) 17. ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) 18. ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA / BSD / RCTA / DOW) 19. ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย 20. กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ 21. สัญญาณเตือนระยะด้านหน้า และหลัง |
จำนวนที่นั่ง |
7 ที่นั่ง |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อน 2 ล้อ (หน้า) |
เอกสารและเงื่อนไขของการเช่ารถไฟฟ้าขับทดแทนระหว่างซ่อม มีอะไรบ้าง ?
เอกสารการเช่ารถไฟฟ้าแบบขับเอง |
|
บุคคลทั่วไป |
1. บัตรประชาชน 2. ใบขับขี่ 3. บัตรเครดิต |
ชาวต่างชาติ |
1. Passport 2. ใบขับขี่สากล หรือในประเทศของผู้เช่า 3. บัตรเครดิต 4. ตั๋วเที่ยวบินไป-กลับ แสดงชื่อผู้เช่าและวันเวลาเดินทางที่ชัดเจน |
นิติบุคคล |
1. หนังสือรับรองบริษัทฉบับล่าสุด ไม่เกิน 3 เดือน 2. ใบจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) 3. บัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม *ในกรณีกรรมการผู้มีอำนาจลงนามไม่ได้มารับรถยนต์เองจะต้องมีใบมอบอำนาจ* โดยมีข้อความสำคัญในการมอบอำนาจดังนี้ 1. ให้ทำสัญญาเช่ารถยนต์ 2. ให้รับมอบรถยนต์และใช้งานรถยนต์ 4. บัตรประจำตัวประชาชน และใบขับขี่ของผู้รับมอบอำนาจ |
เงื่อนไขการเช่ารถEV ขับเอง
1. รับรถไฟฟ้าเต็ม คืนรถไฟฟ้าเต็ม เมื่อนำรถมาคืนและไม่ชาร์จไฟฟ้าคืนให้ หากมีเวลาเหลือลูกค้าสามารถนำรถไปชาร์จให้ได้ แต่หากไม่สะดวกทางบริษัทจะคิดค่าบริการ 321 บาท รวมกับค่าไฟฟ้าที่ชาร์จไปตามจริง
2. เวลาทำการ 08.00-20.00 น.
3. ประกันภัยรถยนต์ รถยนต์มีประกันภัยชั้น 1 ที่แถมมากับรถยนต์ โดยจะไม่รวมค่าเสียโอกาส หากซื้อประกันภัยแบบพิเศษ SCDW เพิ่ม หากชนมา ได้มัดจำคืนปรกติ ประกันภัยแบบพิเศษ SCDW รายวัน = 535 หรือ 856 บาท/วัน รายเดือน = 10,700 หรือ 16,050 บาท/เดือน เป็น Option สามารถเลือกซื้อเพิ่มได้
4. เงินมัดจำจะได้คืนภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากคืนรถยนต์ โดยจะโอนเข้าบัญชีของผู้เช่า
5. สูบบุหรี่ในรถยนต์ ค่าปรับ 3,210 บาท
6. นำสัตว์เลี้ยงขึ้นบนรถยนต์ ค่าปรับ 1,070 บาท
7. ลืมกุญแจไว้ในรถ ค่าปรับ 3,210 บาท + ค่าเดินทางของพนักงานตามระยะทาง
8. ทำกุญแจหาย ค่าปรับเริ่มต้น 10,700 บาท
9. กรณีขอรถทดแทนระหว่างการใช้งาน ค่ารถทดแทนอยู่ที่ 3,210 บาท/ครั้ง
จุดให้บริการเช่ารถไฟฟ้าขับทดแทนระหว่างซ่อม มีที่ไหนบ้าง ?
- จุดที่จัดส่งรับคืนฟรี บริษัท Exclusive Car Rental
ที่ตั้ง : เลขที่ 489 ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000
- จุดที่มีค่าบริการจัดส่งนอกสถานที่อื่นๆ
1. กรุงเทพและนนทบุรี 1,070 บาท
2. สมุทรปราการ 1,498 บาท
3. สมุทรสาคร 1,712 บาท
4. อยุธยา เริ่มต้น 2,140 บาท
5. ชลบุรี เริ่มต้น 2,140 บาท
ช่องทางติดต่อเช่ารถไฟฟ้าขับทดแทนระหว่างซ่อม มีช่องทางใดบ้าง ?
1. ลิงก์ : เช่ารถไฟฟ้า
2. LINE ID : @exclusivecar
3. อีเมล : info@exclusive.co.th
หรือโทรมาติดต่อสอบถามที่เบอร์ : 02-126-0718
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับการเช่ารถของเรา
- 5 แบรนด์รถไฟฟ้า ยอดขายดีในปี 2567 มีรุ่นอะไรบ้าง ?
- 5 ข้อดีของการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถน้ำมัน
- เช่ารถไฟฟ้า mg maxus 9 จากกรุงเทพไปเที่ยวภูเก็ต
ช่องทางดิจิตอลติดตามเนื้อหาล่าสุดของเรา :
Youtube : https://youtube.com/@ExclusiveCarRental
Facebook : https://www.facebook.com/exclusive.co.th