ฟอร์จูนเนอร์ 2020 โฉมใหม่ ราคาเท่าไหร่?
หากจะกล่าวถึงรถอเนกประสงค์จำพวก SUV หรือ MPV หรือ PPV ที่เป็นแนวครอบครัว บรรจุผู้โดยสารเท่าไหร่ก็ได้ หรือจะใส่สัมภาระที่ขนมาได้มากแค่ไหนก็ได้ หนึ่งในยี่ห้อรถของหลายๆคันทั่วโลก ต้องมีชื่อของ Toyota Fortuner อยู่ในรายชื่อแน่นอน รถรุ่นนี้ได้รับการครอบครองตลาดรถอเนกประสงค์มายาวนานและเป็นอันดับ 1 ในตลาดรถอเนกประสงค์ ประเภทพีพีวี (PPV) มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา และในปี 2563 หรือ 2020 นี้ Toyota Fortuner มีการปรับโฉมอย่างเป็นทางการในรอบ 5 ปี โดยออกแบบและพัฒนารูปลักษณ์ให้มีความ “Prestige & Cool” มากยิ่งขึ้น เพื่อสะท้อนตัวตนความเป็นผู้นำของผู้ขับขี่อย่างมีระดับ เน้นความหรูหราและทันสมัย มาพร้อมกันถึง 2 รุ่น 2 ดีไซน์ มีให้เลือกทั้งรุ่นมาตรฐาน และรุ่นพิเศษ Legender รวมทั้งหมด 7 รุ่นย่อยด้วยกัน แนวคิดการออกแบบฟอร์จูนเนอร์ใหม่คือ Cool & Tough เน้นผสมผสานความบึกบึนแข็งแกร่งเข้ากับสไตล์ที่ปราดเปรียวคล่องตัว เหมาะสำหรับการใช้งานทุกวัน ทั้งการจราจรในเมืองใหญ่ก็ขับขี่ได้สนุก และลุยได้ทุกเส้นทางนอกเมืองก็มั่นใจ เรามาดูข้อมูลของรถยนต์ Toyota Fortuner กันดีกว่า ว่ามีอะไรดีบ้าง
ฟอร์จูนเนอร์ 2020 โฉมใหม่ ราคาเท่าไหร่บ้าง
Toyota Fortuner 2020 รุ่นมาตรฐาน มี 3 รุ่นย่อย ดังนี้
-รุ่น 2.4G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,349,000 บาท
-รุ่น 2.4V เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,454,000 บาท
-รุ่น 2.4G เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,524,000 บาท
Toyota Fortuner 2020 ในรุ่น Legender มี 4 รุ่นย่อย ดังนี้
-รุ่น 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,564,000 บาท
-รุ่น 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,634,000 บาท
-รุ่น 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,769,000 บาท
-รุ่น 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,839,000 บาท
คุณสมบัติทั่วไปของ Toyota Fortuner 2020 โฉมใหม่
มิติของรถ
-ความยาว 4,795 มม.
-ความกว้าง 1,855 มม.
-ความสูง 1,835 มม.
-ฐานล้อ 2,750 มม.
-ระยะห่างพื้นดิน 193 มม.
-จำนวนประตู 5 ประตู
-จำนวนที่นั่ง 5 ที่นั่ง
ระบบความปลอดภัย
-ถุงลมนิรภัยคนขับ
-ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
-ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
-ม่านถุงลมนิรภัย
-ถุงลมนิรภัยเข่า
-ระบบความคุมการกระจายแรงเบรก (EBD)
-ระบบเบรกป้องกันล้อล๊อค (ABS)
-ระบบควบคุมการทรงตัว (VSA)
-ระบบป้องกันการไหลของรถ (HSA)
-สัญญาณเตือน
-ระบบเตือนการออกนอกเลน
อุปกรณ์ภายในและความสะดวกสบาย
-ระบบ Cruise Control
-ปุ่ม Push Start
-ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
-ระบบให้ความบันเทิงด้วยจอสัมผัส 9 นิ้ว
-ระบบเชื่อมต่อด้วย Bluetooth, USB รองรับ Apple CarPlay
-ชั้นวางของบนหลังคา
-พวงมาลัยพาวเวอร์
-ระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
-ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า
-กล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ
-สัญญาณเตือนกะระยะ หรือ Park Sensor
-ระบบ Activated Kick Door เปิดประตูหลังแบบไม่ต้องสัมผัส
-แท่นชาร์จไร้สาย
การออกแบบ Toyota Fortuner 2020 โฉมใหม่
Toyota Fortuner 2020 รุ่นมาตรฐาน รูปลักษณ์ภายนอก ที่ปรับดีไซน์กระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน เพิ่มความรู้สึกแข็งแกร่งให้กับตัวรถ ดูหรูหรา บึกบึนมากยิ่งขึ้นมาพร้อมกับไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ และปรับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อมกับ Light Guiding เพิ่มความโดดเด่นในยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังปรับล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่ให้รับกับตัวรถ
Toyota Fortuner 2020-2021 รุ่นพิเศษ ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า “Legender” ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันให้แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน คำนึงถึงความสวยงามของเส้นสายที่ดูเฉียบคมมากยิ่งขึ้น ตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพิ่มความโฉบเฉี่ยว ด้วยสัดส่วนกระจังหน้าที่แตกต่าง เพิ่มความทันสมัยด้วย ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ไฟสูงและไฟต่ำแบบ LED พร้อมปรับดีไซน์กันชนหลังใหม่ให้สอดรับกับดีไซน์ด้านหน้าอย่างลงตัว
นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนลายล้ออัลลอย 20 นิ้วเป็นดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับหลังคาทูโทน ให้ความโดดเด่น ยกระดับการเป็น Flagship Model สะท้อนภาพลักษณ์สปอร์ตระดับผู้นำ ดีไซน์หรูหรา แบบ Sport Premium PPV
เครื่องยนต์ toyota fortuner 2020 โฉมใหม่
เครื่องยนต์ใหม่ Toyota Fortuner 2020 ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุดได้ถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ตอบรับทุกการขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะ และประหยัดน้ำมันมากขึ้น พร้อมเพิ่มสมรรถนะให้ดีขึ้น
·เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง ราบรื่น ไม่สะดุด
·แสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อบนหน้าจอ MID และติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง เพื่อช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้างขณะขับขี่
·เพิ่มระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็วให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ
· Sport Mode เพื่อช่วยให้การขับขี่ของคุณสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับการทำงานของคันเร่งให้ตอบสนองเร็วยิ่งขึ้น และปรับการทำงานของพวงมาลัยให้มีน้ำหนักมากขึ้น เหมาะสำหรับการเร่งแซงและการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูง