จุดเริ่มต้นของรถBYD

BYD (Build Your Dreams) เป็นบริษัทจากประเทศจีนที่ก่อตั้งโดย Wang Chuanfu ซึ่งมีพื้นฐานการศึกษาในสาขาเคมีและวัสดุศาสตร์ และเคยทำงานเป็นนักวิจัยด้านโลหะวิทยา ในปี 1995 เขาได้ก่อตั้ง BYD ที่เมืองเซินเจิ้น โดยเริ่มต้นจากการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือและแล็ปท็อป บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์มือถือในประเทศจีน โดยมีลูกค้าชั้นนำระดับโลกอย่าง Nokia, Samsung, และ Apple ในปี 2000 BYD ได้กลายเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในปี 2002 บริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

ตารางราคาสำหรับการเช่าร BYD ขับเอง

เช่ารถBYD คุ้มค่าที่สุด! ที่ Exclusive Car Rental พร้อมให้บริการคุณแล้ว! คลิกจองรถที่นี่

ยี่ห้อ/รุ่น/ปี	ราคา	เงินมัดจำ	ระยะเวลาในการขับขี่
BYD ATTO 3 2023	2,461 บาท/วัน	10,000 บาท	24 ชั่วโมง
	36,380 บาท/เดือน

บริการเช่ารถไฟฟ้าขับเอง

เอกสารที่ต้องเตรียม:

1. บัตรประชาชน

2. ใบขับขี่

3. บัตรเครดิต

4. เงินมัดจำ 10,000 บาท

** หากไม่มีบัตรเครดิต : ใช้สลิปเงินเดือนล่าสุด 1 เดือน และ Statement ที่แสดงเงินเดือนย้อนหลัง 2 เดือน **

คุณสมบัติของรถBYD Atto 3

มอเตอร์	1 มอเตอร์
พละกำลังสูงสุด	201 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด	310 นิวตันเมตร
ระยะทางขับขี่สูงสุด / 1 การชาร์จ มาตรฐาน NEDC	410 กิโลเมตร
ระบบขับเคลื่อน	FWD ขับเคลื่อนล้อหน้า
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม	7.3 วินาที
ความเร็วสูงสุด	160 กม./ชม.
แบตเตอรี่	ลิเธียมไอออน Blade Battery LFP
พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh)	49.92
แรงดันไฟฟ้า (V)	371.2
รองรับการชาร์จ AC Type 2 (kW)	7
รองรับการชาร์จ DC CCS 2 (kW)	70
พวงมาลัย	ไฟฟ้า
ระบบกันสะเทือนหน้า / หลัง	แม็กเพอร์สัน, มัลติลิ้งค์
ระบบเบรคหน้า/หลัง	ดิสก์เบรก
ขนาดยางล้อ	215/55 R18

ขนาดของรถ BYD Atto 3

ขนาดตัวรถภายนอก ยาว x กว้าง x สูง (มม.)	4,455 x 1,875 x 1,615
ระยะห่างระหว่างล้อ (มม.)	2,720
ระยะความสู้จากพื้น (มม.)	175
น้ำหนักรถ (กก.)	1,750

รถยนต์ไฟฟ้า BYD มีข้อดีอะไรบ้าง?

รถBYD มีคุณสมบัติและข้อดีที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค ดังนี้

1. ความปลอดภัย
บริษัท BYD มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานสูงสุดเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยเฉพาะการใช้ Blade Battery ที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งได้รับการทดสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจในความเชื่อถือได้

2. ลดการใช้พลังงาน
รถยนต์ไฟฟ้าของ BYD มีประสิทธิภาพสูง ช่วยประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง

3. การขับขี่อย่างเงียบสงบ

รถยนต์ไฟฟ้า BYD ทำงานโดยไม่มีเสียงเครื่องยนต์เมื่อเริ่มขับขี่ ส่งผลให้การเดินทางเป็นไปอย่างเงียบสงบและสบายตลอดเส้นทาง

4.ความง่ายดายในการใช้ชีวิต

มีการออกแบบภายในที่เน้นความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้การขับขี่เป็นประสบการณ์ที่น่าพอใจ รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิภายในรถและระบบการชาร์จที่ล้ำสมัย

5.คุณภาพและความน่าเชื่อถือ

BYD เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในตลาดรถยนต์ทั่วโลก โดยได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคและมีมาตรฐานคุณภาพสูงในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

จุดแข็งที่ทำให้ BYD ประสบความสำเร็จ

BYDกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีหลายปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความนิยมในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะปัจจัยที่ทำให้ผู้คนรู้จักแบรนด์และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ BYD มากขึ้นในปัจจุบัน

1. พัฒนานวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกด้วย Blade Battery

BYD ประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากเผชิญกับความล้มเหลวหลายครั้ง โดยมีวิสัยทัศน์ของ Wang Chuanfu ที่มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งนำไปสู่การสร้าง "Blade Battery" แบตเตอรี่ที่มีความต้านทานต่อความร้อนสูงและมีความปลอดภัยมากขึ้นในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยสามารถวิ่งได้ไกลถึง 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นวัตกรรมนี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า จนถึงขั้นที่ Elon Musk ให้ความสนใจและนำไปใช้ใน Tesla.

2. ราคาที่เข้าถึงได้และมีทางเลือกที่หลากหลายกว่าเจ้าอื่น

BYD มีความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีรุ่นรถไฟฟ้าที่หลากหลาย ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกัน ตั้งแต่รถที่มีราคาเริ่มต้นหลักแสนไปจนถึง

ล้านต้นๆ ในขณะที่ Tesla มีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่ามาก ทำให้ BYD เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถไฟฟ้าในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า

3. ไม่ได้มองเพียงแค่ปัจจุบัน แต่ยังมองไปถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึง

BYD มีความเชื่อมั่นว่าแบตเตอรี่จะกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักในอนาคต โดยเริ่มต้นธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2008 ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกคือ F3 ซึ่งเป็นรถมินิคาร์ที่มีราคาประมาณ 40,000 หยวน (ราว 200,000 บาท) และติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร การผลิตชิ้นส่วนและเทคโนโลยีภายในรถเองช่วยให้สามารถตั้งราคาได้ต่ำ ส่งผลให้คู่แข่งอย่าง Toyota และ Honda ต้องเผชิญกับแรงกดดัน.

ในปี 2022 บริษัท BYD มีรายได้รวม 424.06 แสนล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้น 96.2% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา และในไตรมาสที่สองของปี 2023 กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 145% โดยมีรายรับสุทธิอยู่ที่ 6.8 พันล้านหยวน (ประมาณ 930 ล้านดอลลาร์) จากการจำหน่ายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า โดยยอดขายรวมในช่วงไตรมาสสองนี้อยู่ที่ 700,000 คัน.

BYD มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่และส่วนประกอบต่างๆ รวมถึงการผลิตรถยนต์ไฮบริดเพื่อทดแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ก่อนที่จะตัดสินใจยุติการผลิตรถยนต์น้ำมันเมื่อเห็นแนวโน้มการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทำให้ BYD พร้อมที่จะขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคตอย่างเต็มที่